501 Views มาพบกันวันนี้ก็จะเป็นตอนที่สอง สำหรับหนังสือเล่มนี้ หนังสือ Own Your Life หรือการนำเสนอ 45 วินาที ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า ใครที่ควรจะอ่านหนังสือเล่มนี้ หรือเหมาะสมที่จะอ่านหนังสือแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตาม ที่ต้องการรีขูดคนเข้ามาในองกรณ์ หรือต้องการสร้างองค์กร ไม่ว่าจะเป็นขายออนไลน์ ขายประกัน หรือว่าจะเปลี่ยนขายสินค้าทั่วไปก็ได้ หรือเป็นขายตรงก็ได้ ทุกธุรกิจที่พูดมานี้ ธุรกิจใดก็ตามที่ต้องการรีขูดคนเข้ามาในองกรณ์ ต้องการสร้างทีมงานสร้างองค์กร ต้องบอกเลยว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสม เรามาต่อกันวันนี้ก็จะเป็นตอนที่ 2 บทที่ 1 สำหรับหนังสือเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเกี่ยวกับ ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายในระดับตำนานเลยก็ว่าได้ หนังสือที่มีชื่อว่า “Own Your Life The 45 Second Presentation That Will Change Your Life” สามารถดูผ่านวิดีโอได้ครับ หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นโดย Don และ Nancy Failla ในบทที่ 1 จะบอกว่า การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือว่า MLM มันคืออะไร แล้วอะไรล่ะที่ไม่ใช่การตลาดเครือข่ายหรือ MLM เราจะมาเรียนรู้ด้วยกัน ว่าอะไรคือการตลาดแบบเครือข่าย และอะไรที่ไม่ใช่ จุดประสงค์ที่ผมนำมาแบ่งปันมันก็คือ ต้องการสร้างเครือข่ายร่วมกัน ต้องการสร้างสัมพันธภาพ สร้างเพื่อนมิตรร่วมกันทางออนไลน์ นั่นคือจุดประสงค์แรก จุดประสงค์ที่ 2 ผมเองต้องการอ่านหนังสือเล่มนี้ เพื่อให้มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย เพราะผมเองก็สังกัดอยู่ในบริษัทเครือข่ายบริษัทหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทสีส้ม จุดประสงค์ที่ผมมาแบ่งปัน คือผมเองก็ทำเครือข่ายไปด้วยและศึกษาไปด้วยกัน และจุดประสงค์หลักเพื่อต้องการให้เพื่อนๆได้รู้ว่า อะไรคือเครือข่ายและอะไรที่ไม่ใช่เครือข่าย แล้วคำว่าเครือข่ายหรือขายตรงนี่แหละ มันดียังไง เหมาะสมกับใครบ้าง เหมาะสมกับคนกลุ่มใด ซึ่ง Don Failla บอกว่า การอธิบายธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายให้คนอื่นเข้าใจมันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และเป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุด Don Failla บอกว่าทุกคนเคยประสบปัญหาทางด้านการเงินมาก่อน ซึ่งเรารู้จักกันในนามของคำว่าวิกฤตินั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจ หรือเศรษฐกิจถดถอย ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบกับเราทั้งหมดเลย แต่ Don Failla พูดว่าวันนี้และเรามีอีกหนึ่งทางเลือก ทางเลือกที่ว่านี้ก็คือการตลาดแบบเครือข่าย เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้เราปลอดภัยสถานะทางด้านการเงินมากขึ้นนั่นเอง เมื่อพูดถึงตอนนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า เครือข่ายคืออะไรแล้วอะไรคือเครือข่าย Don Failla เมื่อเราประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจหรือยังไม่เจอวิกฤตนั้นก็ตาม แต่เรามีอีกหนึ่งช่องถามที่จะสามารถทำให้เราผ่านวิกฤตนั้นไปได้ ช่องทางที่ว่านี้ก็คือการตลาดแบบเครือข่าย ซึ่งจะทำให้เรามีปลอดภัยทางด้านการเงินมากขึ้นนั่นเอง ข้อมูลที่เรานำมาอ้างอิงเหล่านี่แหละ อ้างอิงมาจากสมาคมขายตรง ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจของอเมริกันเติบโตประมาณ 4% แต่อุตสาหรรมขายตรงเติบโตประมาณ 5.9% นี่คือข้อมูลอ้างอิงมาจากสมาคมขายตรงของอเมริกัน ซึ่งเป็นการเติบโตดีกว่าเศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมด 48% ซึ่งตัวเลขทั้งด้านการเงินนี่เป็นตัวเลขการเติบโตคล้ายๆกันในทั่วโลก ถ้าเราเป็นหนึ่งคนที่ต้องการมีอิสระทางด้านการเงิน และเป็นคนกำหนดชีวิตอิสระของตัวเอง มันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด ที่เราจะต้องเข้ามาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหรรมนี้ อุตสาหรรมที่ว่านี้ก็คือ การตลาดแบบเครือข่ายนั่นเอง เพื่อความสำเร็จที่มั่นคงแล้วก็ยั่งยืน ใครก็ตามที่เข้ามาร่วมธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย มันเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องอธิบายให้คนอื่นเข้าใจว่าธุรกิจค้าขายมันคืออะไร เราจะอธิบายยังไงให้คนอื่นเข้าใจ แท้ที่จริงแล้วธุรกิจเครือข่ายมันคืออะไร ซึ่ง Don Failla บอกว่าการตลาดแบบเครือข่ายหรือการตลาดแบบหลายชั่น มันเป็นอีกหนึ่งในหลายๆวิธี ณปัจจุบันมีบริษัทต่างๆใช้วิธีการนี้เคลื่อนสินค้าไปสู่ผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่งเติบโตเร็วมาก ก็เลยเป็นธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่งที่มีคนเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก ซึ่ง Don Failla บอกว่า ก่อนปี 2012 สินค้าและบริการต่างๆจะมีมูลค่ามากกว่า 167 ล้านเหรียญ เรือประมาณ 5ล้านล้านบาท ซึ่งถูกเคือนสินค้าและบริการผ่านการคลาดแบ่บเครือข่าย และ บริษัทขายตรงต่างๆ ซึ่งนับจากนี้เป็นต้นไป Don Failla บอกว่าให้จับตามอง MLM ในศตวรรษที่21 หรือในปัจจุบัน ให้เราลองมาวิเคราะห์พิจารณาดูว่า MLM หรือการตลาดแบบเครือข่าย เรื่อการตลาดแบบหลายชั้นมันคืออะไร ให้ลองมาวิเคราะห์พิจารณาดูว่า มันเป็นทางเลือกสำหรับเราไหม หรือว่ามันเป็นเพียงแค่สิ่งที่เราคิดในเมื่อก่อน อย่างที่ Don Failla ได้บอกตอนเริ่มต้นแล้ว ถ้าเราต้องการเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ให้เราว่างอคติต่างๆที่เราเคยมีกับเครือข่ายในเมื่อก่อน แล้วมาตั้งใจฟังศึกษาร่วมกันนั่นเอง ซึ่ง Don Failla บอกว่าจุดประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ เพื่อถ่ายทอดความรู้และความเข้าใจให้กับท่าน ผู้อ่านหลายๆคน ผ่านทางภาพและตัวอย่างต่างๆ ไปสู่อะไรคือธุรกิจเครือข่ายหรืออะไรคือ MLM และมีอะไรบ้างที่ไม่ใช่เครือข่าย ถ้าใครก็ตามที่เข้ามาร่วมธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่เราจะต้องอธิบายให้คนอื่นได้เข้าใจนั่นเอง ซึ่ง Don Failla บอกว่า เมื่อท่านอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ท่านก็จะได้รับรู้ความจำเป็นของการตลาดเครือข่าย และจะได้รู้วิธีการอธิบาย ให้คนอื่นได้รับรู้และเข้าใจ เราควรจะใช้หนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือในตอนที่เริ่มต้นธุรกิจ ในชุดของเครื่องมือในการทำธุรกิจแบบนี้นั่นเอง ซึ่ง Don Failla ได้พัฒนาระบบที่มีชื่อว่า The Napkin Presentation ขึ้นในปี ค.ศ 1973 หนังสือเล่มนี้ได้รับการพัฒนระบบการสอน ที่เป็น MLM ขึ้นในปี ค.ศ 1973 ถ้าเทียบกับปัจจุบันก็เกือบ 60 ปีแล้ว ระบบนี้ก็ได้รับการพัฒนา เนื้อหาพื้นฐานเป็นหลักการของหนังสือเล่มนี้นั่นเอง หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือระดับตำนาน ที่ใช้ในการฝึกสอน การสร้างองค์กร การรีขูดคนเข้ามาในองกรณ์ ในการทำธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายนั่นเอง ผู้เขียนเองเข้าร่วมการตลาดแบบเครือข่ายหรือการตลาดแบบหลายชั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 หนังสือเล่มนี้ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับการนำเสนอ ผ่านกระดาษเช็ดปาก ทั้งหมดมี 10 บท ได้มีการพัฒนาเนื้อหาให้ทันสมัยขึ้นจนปัจจุบัน Don Failla บอกว่าก่อนที่เราจะเข้าถึงรายละเอียดทั้ง 10 บท ของบทฝึกสอนผ่านกระดาษเช็ดปาก The Napkin Presentation นั่นเอง ขอให้ผู้เขียนได้มีโอกาสตอบคำถาม ที่ถูกถามมากที่สุด และยังเป็นคำถามพื้นฐานอีกด้วย คำถามที่ว่านี้ก็จะเปลี่ยน MLM มันคืออะไร การตลาดแบบเครือข่ายมันคืออะไร การตลาดแบบหลายชั้นมันคืออะไร คำถามนี้แหละเป็นคำถามที่ถูกถามมากที่สุด หรือเป็นคำถามยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ตลอดหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนจะใช้คำว่า MLM การตลาดแบบเครือข่าย หรือการตลาดแบบหลายชั้น สลับกันเพื่อให้เราได้ทำความเข้าใจร่วมกัน คำว่าการตลาดแบบเครือข่าย หรือว่าการตลาดแบบหลายชั้นนี่แหละ เราจะมาแยกออกจากกันทีละคำ คำว่าการตลาดนี้แหละมันมีความหมายว่าอย่างไร ซึ่ง Don Failla บอกว่า คำว่าการตลาดความหมายของมันก็คือ การเคลื่อนไหวสินค้า หรือบริการต่างๆ จากผู้ผลิตไปสู่มือผู้บริโภค คำว่าหลายชั้น จะเป็นเครื่องมือเป็นระบบการจ่ายผลตอบแทน ที่จะจัดสรรแบ่งจ่ายให้กับคนที่เป็นสาเหตุ ที่ทำให้สินค้าหรือบริการต่างๆมีการเคลื่อนไหว มากกว่าหนึ่งชั้น ถ้าจะตอบแบบถูกต้องจริงๆ จะใช้คำว่ารุ่นนั่นเอง หรือการตลาดแบบหลายรุ่น แต่ถ้าเราจะเรียกว่าการตลาดแบบหลายชั้น หรือการตลาดแบบหลายรุ่น เมื่อเราฟังแล้วมันไม่ค่อยเพราะสักเท่าไหร่ ทำให้ผู้ฟังงุนงงนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม เรายังจะใช้คำว่าการตลาดแบบหลายชั้นต่อไป เพราะว่าเป็นคำสามัญธรรมดาที่ทำให้หลายคนเข้าใจ ฟังแล้วก็รู้เรื่องเข้าใจง่าย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วจะมีคนอยู่กลุ่มนึง ที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม อาจจะรวมตัวกันด้วยรูปแบบของพีระมิดหรือลูกโซ่ ซึ่งพยายามสร้างตัวเองขึ้นมาให้คล้ายกันกับรูปแบบโปรแกรมการตลาดแบบหลายชั้น ซึ่งเป็นรูปแบบที่เราจะเห็นกันเป็นประจำ ในรูปแบบของการโกงเงินหลอกลวง รวมถึงในอดีต, ปัจจุบัน จนไปถึงในอนาคต ที่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นลูกโซ่หรือพีระมิด ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นและจะเอาโมเดลรูปแบบของการตลาดแบบเครือข่ายนำไปใช้นั่นเอง สิ่งนี้เองที่ได้สร้างจุดด่างพร้อย หรือจุดตำหนิให้กับธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือว่าธุรกิจแบบ MLM นั่นเอง ซึ่งมันเป็นการตัดสินที่ไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่สำหรับคนที่ทำธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย มันส่งผลให้บริษัท MLM หน้าใหม่หลายบริษัทหันไปใช้ชื่ออื่นแทน บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Uni-Level Marketing บางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Network Marketing หรือบางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่าการตลาดแบบเครือข่าย หรือมากไปกว่านั้นบางคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Independent Marketing หรืออาจจะมีบางคำศัพท์เกิดขึ้นมาอีกก็ได้คำว่า Relationship Marketing มันยังมีอีกหลายคำศัพท์รวมไปถึง Friend to Friend Marketing หรืออาจจะใช้ชื่ออื่นแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดนี้ก็คือจะเป็นการตลาดแบบหลายชั้นหรือว่า Multi- Level Marketing หรือว่าการตลาดแบบเครือข่ายหรือการตลาดแบบหลายชั้นนั่นเอง อาจจะใส่คำศัพท์อื่นแตกต่างกันออกไป แต่ว่าเค้าโครงเดิม จุดประสงค์หลักโมเดลธุรกิจแบบนี้ ก็จะเป็นการตลาดแบบหลายชั้นนั่นเอง เราจะมาดูช่องทางในการขาย Don Failla ได้รวบรวมช่องทางในการขายทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ว่าจะขายอะไรก็ตามในโลกนี้รวมทั้งหมดมีอยู่ 5 ช่องทาง 5 ช่องทางที่ว่านี้มีอะไรบ้าง ตอนนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานเพื่อความสำเร็จของท่าน และเพื่อความสำเร็จของคนที่ท่านจะพาพวกเขา ที่เข้ามาร่วมในองค์กรของท่าน ให้เราเรียนรู้ข้อมูลเหล่านี้ก่อน เพื่อที่เราจะสามารถไปสอนต่อกับคนในองค์กรของเราได้ ซึ่ง Don Failla บอกว่าโดยพื้นฐานแล้ว วิธีในการเคลื่อนไหวสินค้าหรือบริการต่างๆ มีเพียงแค่ 5 วิธีเท่านั้น อันที่ 1: ก็จะเปลี่ยนขายปลีกหรือขายย่อย ซึ่งรูปแบบของการขายปลีก มั่นใจได้ว่าทุกคนคงเคยเข้าร้านขายปลีกทั่วไป หรือร้านสะดวกซื้อ แน่นอนว่าเราเคยไปซื้อจากร้านสะดวกซื้อเหล่านี้แหละ ซื้อตามมินิมาร์ทหรือตามหางต่างๆ ที่เราเคยไปซื้อสินค้าที่ละอย่างสองอย่าง ทั้งหมดนั่นแหละล้วนแล้วแต่เป็นการขายปลีกด้วยกันทั้งนั้น อันนี้ก็คือเป็นรูปแบบที่หนึ่ง มาดูรูปแบบที่สอง รูปแบบที่ 2: ที่ว่านี้ก็จะเป็นขายตรง ที่เราเคยเห็นกันเมื่อก่อน ก็จะเป็นรูปแบบ Knoc door คำว่าขายตรงหลายคนก็คงจะได้เขียนภาพว่าตัวเอง กำลังซื้อสินค้าไปขายตามหน้าบ้าน นั่นก็คือรูปแบบที่สอง ปกติแล้วมันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป โดยปกติแล้วเรามักจะพบเห็นกันในธุรกิจประเภท ขายประกัน ไม่ว่าจะเป็นใครประกันภัยสำหรับรถ ประกันชีวิต ที่เราได้พบเจอกันทั่วไป รวมไปถึงการขายเครื่องครัวที่เราใช้กันประจำวัน รวมไปถึงการขายสารานุกรม หรืออาจจะเป็นจำพวกทับเปอร์แวร์ ที่มีการขายตามบ้านทั่วไป รูปแบบที่ว่านี่แหละคือจะเป็นรูปแบบของการขายตรง สิ่งที่เราพูดถึงในตอนนี้ ตัวอย่างบางอย่างของการขายตรง เป็นวิธีการขายแบบ มีคนนึงที่พยายามมาขายสินค้าให้กับเรา แบบซึ่งหน้า หรือพยายามขายสินค้าให้กับคนอื่นแบบซึ่งหน้า วิธีการขายแบบนี้ เราเรียกกันว่าวิธีการขายแบบขายตรง รูปแบบที่ 3: ก็จะเป็นการตลาดแบบหลายชั้น หรือการตลาดแบบเครือข่ายนั่นเอง หรือ MLM สิ่งที่เรากำลังพูดถึงในตอนนี้ มันจะทำให้เราเข้าใจ เราจะสร้างความคุ้นเคยกันต่อไปตลอดกาลอ่านหนังสือเล่มนี้นั่นเอง ซึ่งบางคนก็อาจจะสับสนกับสองอย่าง โดยเฉพาะอย่างแรก การขายตรงที่จะทำให้หลายคนสับสน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ คนจะสับสนระหว่างการขายตรง และการตลาดแบบหลายชั้น แต่ว่าการตลาดแบบหลายชั้นเราจะอธิบาย ซึ่งมีครบทั้งหมดเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ เมื่อเราอ่านจบก็จะเข้าใจเอง เราจะเข้าใจว่าการตลาดแบบหลายชั้นกับขายตรงมันแตกต่างกันอย่างไร อันนี้ก็คือจะเป็นข้อที่สาม ต่อมาก็จะเป็นการขายในรูปแบบที่ 4 การขายรูปแบบที่ 4: ก็จะเป็นการตลาดแบบส่งตรง รูปแบบการส่งตรงถึงหน้าบ้าน หรือที่เราเคยได้ยินก็จะเป็นรูปแบบของทีวีไดเร็ค (TV Direct) รูปแบบการขายแบบนี้ ก็จะเป็นการส่งเสริมการขายผ่านท่านไปรษณีย์ การสั่งซื้อผ่านทีวี หรือเป็นการสั่งซื้อผ่านทางแคตตาล็อก มาดูรูปแบบสุดท้ายกันดีกว่า รูปแบบที่ 5: รูปแบบนี้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน นั่นก็คือรูปแบบการตลาดออนไลน์ เป็นช่องทางการกระจายสินค้าผ่านทางออนไลน์นั่นเอง ซึ่ง Don Failla บอกว่า ช่องทางนี้และเป็นช่องทางที่มีการควบคุมแบบหลากหลาย ซึ่งวิธีการเคลื่อนสินค้าหรือบริการต่างๆ โดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง ใช้ผ่านเว็บไซต์, ตัวอย่างอเมซอนดอทคอม เฟซบุ๊ก ติ๊กต๊อก หรือสื่อโซเชียลต่างๆ หรืออาจจะใช้แบบ Google Ads Words ก็ได้ ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันก็ได้ ในการภาษาสัมพันธ์ ซึ่งในรูปแบบที่หารูปแบบสุดท้ายนี่แหละ เป็นรูปแบบที่แพร่กระจายมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่ง MLM และการตลาดแบบหลายชั้นก็จะเป็นอันเดียวกัน เรามาดูกันดีกว่าอะไรที่ทำให้บริษัท ธุรกิจที่เป็นขายตรง ธุรกิจที่เป็นต้องโซ่หรือลูกโซ่ มันแตกต่างจาก MLM หรือมันแตกต่างจากการตลาดแบบหลายชั้น ในความเป็นจริงแล้วเครือข่ายหรือ พีระมิด ที่เป็นต้องโซ่มันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย บริษัทที่เป็นพีระมิดหรือตองโซ่ พวกเขาล้มเหลวในการเคลื่อนไหวสินค้าหรือบริการสู่ผู้บริโภค ถ้าจะพูดแบบถูกต้อง พวกเขาไม่สนใจในการเคลื่อนไหวสินค้าหรือบริการใดๆทั้งสิ้น ซึ่งลูกโซ่หรือปิระมิดมันก็คล้ายๆกันกับเกมส์ในการโกงเงิน ที่เราเคยได้ยินกันเป็นประจำมันก็คือมันนี่เกมส์ มันนี่เกมก็จะเป็นเกมอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการโกงเงิน ซึ่งวิธีการของพวกเขาก็จะเปลี่ยนการหลอกเอาเงิน ถ้าสินค้าหรือบริการไม่มีการเคลื่อนไหว เราก็จะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการตลาด ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวสินค้าไปสู่ผู้บริโภค เราก็จะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการตลาดนั่นเอง เพราะอะไร? นั่นก็เพราะมันไม่มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถจับต้องได้นั่นเอง เพราะฉะนั้น คำว่าพีระมิดหรือลูกโซ่ มันไม่สามารถเป็นการตลาดแบบหลายชั้นได้เลย สาเหตุที่คนจำนวนมากโต้แย้ง การตลาดแบบพีระมิด หรือการตลาดแบบหลายชั้น ที่พวกเขาโต้แย้งก็เพราะว่า พวกเขาเองก็ยังไม่เข้าใจการตลาดแบบหลายชั้นอย่างถูกต้องนั่นเอง คำว่าขายตรงมีวิธีการสร้างตลาด มีวิธีการขยายตลาด ที่แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งความสับสนนี่แหละมันเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ คำว่า MLM เป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับ อยู่ภายใต้การควบคุมของสมาคมขายตรงนั่นเอง หากจะพูดง่ายๆก็คือบริษัทใดก็ตาม ที่เป็นบริษัท MLM จะต้องได้รับการยอมรับจากสมาคมขายตรง ถ้าสมาคมไม่รองรับ มันก็ไม่ใช่กำลังจะเข้าข่ายบริษัทลูกโซ่หรือพีระมิด เมื่อพูดถึงขายตรง หลายคนก็จะคิดเห็นภาพ รูปแบบการขายแบบ Knoc Door หลายคนก็จะคิดเห็นพระแบบนั้น แต่ในคนเป็นจริง สาเหตุที่ทำให้หลายๆคนคิดแบบนั้น นั่นก็เพราะว่ามันมีคนบางกลุ่มที่เป็นนำเสนอการขายในรูปแบบนั้น มันเลยเกิดเป็นภาพจำด้วยการขายสินค้าแบบ Knoc Door มันมีลักษณะอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ MLM หรือขายตรงแตกต่าง ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ทำธุรกิจด้วยท่านแต่ไม่ใช่ตัวของท่าน นั่นแสดงว่าคนอื่นกำลังทำให้เราในรูปแบบธุรกิจของ MLM หรือว่าขายตรง Don Failla อธิบายต่ออีกว่า การอยู่ในธุรกิจเพื่อตัวของท่านเองหมายถึง ท่านกำลังซื้อสินค้าราคาขายตรงจากบริษัทที่ท่านเป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่ สิ่งนี้หมายถึงท่านจะสามารถใช้ หรือจำหน่ายสินค้าที่เราซื้อจากบริษัท หรือจะซื้อมาเพื่อเป็นการบริโภคส่วนตัวก็ได้ หรือจะเอามาใช้ภายในครอบครัวก็ได้เหมือนกัน จุดประสงค์แรกที่หลายๆคนเข้ามาร่วมการตลาดแบบเครือข่ายก็เพื่อจะซื้อสินค้าในราคาขายส่งนั่นเอง และหลายๆคนเมื่อเข้าร่วมการตลาดแบบเครือข่าย เมื่อได้ราคาขายส่งก็เริ่มจริงจังกับธุรกิจ ในระหว่างที่เรากำลังสร้างองค์กร อยู่ในธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายมันมีอะไรบ้าง เนื่องจากท่านกำลังซื้อสินค้าในราคาขายส่ง ท่านยังจะสามารถสร้างกำไรได้อีกถ้าหากท่านต้องการ ด้วยการที่ท่านขายสินค้าเหล่านั้นในราคาขายปลีกนั่นเอง ความเข้าใจผิดที่พบเห็นกันเป็นประจำอีกอย่างหนึ่งในธุรกิจ อาจจะพูดได้ว่าเป็นความเข้าใจผิดมากที่สุดก็คือ หลายคนอาจจะคิดว่า เราจะต้องขายหรือขายปลีกเพียงอย่างเดียว จึงจะทำให้ธุรกิจนี้เจริญเติบโตยิ่งใหญ่ได้ และยังมีอีกหลายคนที่มักจะบอกว่า เราจำเป็นจะต้องขายปลีก เราจำเป็นจะต้องขายย่อย และขายปลีกไม่ควรเป็นเรื่องที่ควรละเลยนั่นเอง แต่ว่าในบางโปรแกรมในบางธุรกิจ กลับมีการกำหนดยอดขายปลีก เพื่อเป็นคุณสมบัติในการรับโบนัสนั่นเอง อันนี้ก็ถือว่าเป็นความล้มเหลวอีกอย่างหนึ่ง ถ้าบริษัทมีการกำหนดเกณฑ์นั่นก็หมายถึงว่ามันจะต้องมีการขาย บางโปรแกรมมีกำหนดยอดขายเพื่อเป็นเกณฑ์ในการบรรลุเป้าหมาย ในการบรรลุคุณสมบัติ เพื่อที่จะได้รับโบนัสนั่นเอง ซึ่ง Don Failla บอกว่า ท่านสามารถขายปลีกก็ได้ถ้าท่านต้องการ หรือทำจะต้องทำเพื่อให้บรรลุข้อกำหนดของบริษัท ถ้าเราจำเป็นต้องการให้บรรลุยอดของบริษัทเราก็สามารถขายได้ แต่ Don Failla บอกว่า ถ้าเราต้องการสร้างธุรกิจเอ็มแอลเอ็มให้มีรายได้แบบมหาศาล หรือประสบความสำเร็จแบบร่ำรวยมั่นคง ท่านจำเป็นจะต้องสร้างคน, สร้างองค์กร และพัฒนาผู้นำ มันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่ยอดขายสินค้าเป็นผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุด ในระดับต้นๆของการทำการตลาด ที่เราไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาด แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า ยอดขายของธุรกิจเครือข่าย จะแตกต่างกับยอดขายของธุรกิจทั่วไปที่เราคุ้นเคย ยอดขายของธุรกิจเครือข่ายที่ทำให้บริษัทเจริญเติบโต ไม่ได้มาจากการขายเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการสร้างองค์กรและการแบ่งประเทศค่าเล็กๆน้อยๆให้กับคนในครอบครัว, ญาติพี่น้อง หรือบรรดาเพื่อนๆของเรานั่นเอง นี่แหละคือเหตุผลที่เราอุทิศเวลาจำนวนมาก ไปกับการสอนให้คนในทีมงานรู้ถึงวิธีการสร้างองค์กร นี่แหละจริงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราบอกกับท่านว่า ท่านสร้างธุรกิจนี้แต่ไม่ใช่เพราะตัวของท่านเอง ท่านไม่ได้อยู่ในธุรกิจนี้เพียงลำพัง วิสัยทัศน์คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า สิ่งที่ว่านี่แหละเป็นสาระที่สำคัญที่สุดของธุรกิจนี้ก็คือ การสร้างทีมให้เติบโตและแข็งแกร่งนั่นเอง ซึ่งประเด็นที่สำคัญก็คือ กิจกรรมการขายของท่านเกิดขึ้นเป็นแบบธรรมชาติ ในระหว่างการสร้างองค์กร ผู้คนจำนวนมากล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ ถูกต้องครับ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตามในโลกนี้ มันย่อมมีคนล้มเหลวมากกว่าคนที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือร้านขายอาหารตามสั่ง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตามในโลกนี้ เราสังเกตดูดีๆคนขายออนไลน์มีตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ก็มีคนที่ประสบความสำเร็จแค่หยิบมือ คนทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารก็มีมาก แต่คนสำเร็จก็มีไม่มากครับ ในทุกธุรกิจอยู่ในโลกนี้ มันย่อมมีคนประสบความสำเร็จและคนล้มเหลวอยู่ในนั้น แต่ประเด็นสำคัญก็คือ เราจะต้องเป็นหนึ่งในนั้นที่ประสบความสำเร็จ ซึ่ง Don Failla บอกว่ามีคนจำนวนมากที่ล้มเหลวจากธุรกิจนี้ เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นทำธุรกิจนี้ โดยใช้ทางอ้อมนั่นเองจึงทำให้พวกเขาล้มเหลว พวกเขาพยายามสร้างองค์กร โดยที่เน้นไปที่การขาย มีคนจำนวนมากพยายามสร้างองค์กรที่เน้นไปที่การขาย แต่ในขณะเดียวกัน ท่านเองกำลังอ่านบทฝึกสอนการนำเสนอผ่านกระดาษเช็ดปากของ Don Failla ในบทถัดไป นท่านจะได้ค้นพบว่า ทำไมการขายมันจริงไม่ได้ผล เมื่อเราพูดถึงการขาย คนมากกว่า 95% จะถูกกระตุ้นความคิด ให้มีความคิดลบเกิดขึ้นในใจนั่นเอง แน่นอนครับเมื่อเราพูดถึงการขาย หลายๆคนก็มักจะพูดว่า ผมเป็นคนนึงที่ไม่ชอบการขาย พูดไม่เก่ง กลัวจะขายไม่ได้ ไม่ชอบการขาย สำหรับในธุรกิจ MLM แล้วท่านไม่จำเป็นต้องเป็นนักขาย ในธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย เราไม่จำเป็นจะต้องขายสินค้า ในแบบการปฏิบัติที่คนทั้งโลกรับรู้ ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น สินค้าก็ยังจำเป็นจะต้องมีการเคลื่อนไหวไปสู่ผู้บริโภค ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นก็จะไม่มีเงินจ่ายให้กับท่านนั่นเอง แน่นอนครับ ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวสินค้า ก็จะไม่มีเม็ดเงินเกิดขึ้น ถ้าไม่มีเม็ดเงินเกิดขึ้น ทางบริษัทก็จะไม่มีเงินมาจ่ายให้กับเรานั่นเอง รูปแบบนี้แหละเขาเรียกว่า โมเดลของการทำธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายหรือว่าการตลาดแบบหลายชั้น ซึ่งผู้เขียนเองก็ให้คำจำกัดความเกี่ยวกับการขายเอาไว้ว่า “เป็นการพบปะกับคนแปลกหน้าแล้วพยายามขายบางสิ่งบางอย่างให้กับคนคนนั้น ทั้งที่คนๆนั้นไม่ต้องการหรือไม่จำเป็นจะต้องมี” DonFailla ยังย้ำอีกว่า สินค้าจะต้องมีการเคลื่อนไหว ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นบริษัทก็จะไม่มีเงินมาจ่ายให้กับท่าน ซึ่งการตลาดแบบเครือข่ายเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่ถูกเรียกแทน MLM ในขณะเดียวกันที่ท่านกำลังสร้างองค์กร ในความเป็นจริงแล้วท่านกำลังสร้างเครือข่ายหนึ่งเครือข่ายขึ้นมานั่นเอง ท่านสามารถระบายสินค้าผ่านช่องทางต่างต่างเครือข่ายของท่าน การขายปลีกหรือการขายย่อย เป็นพื้นฐานการขายของการตลาดเครือข่าย ซึ่งกิจกรรมการขายในการตลาดแบบเครือข่ายหรือ MLM นี่แหละ ไม่ใช่การขาย แต่เป็นการแบ่งปันสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ให้กับเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง ให้กับคนที่รู้จัก ไม่ใช่การขายให้กับคนแปลกหน้า Don Failla บอกว่า ถ้าท่านต้องการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ และมีขนาดใหญ่ ท่านจำเป็นจะต้องสร้างความสมดุลนั่นเอง ท่านจำเป็นจะต้องอุปถัมภ์หรือสปอนเซอร์ ท่านจะสามารถสร้างฐานลูกค้าขึ้นมาได้เอง ด้วยการขายปลีกหรือขายย่อย ให้กับบรรดาเพื่อนบ้านหรือญาติของเท่านั้นเอง สิ่งที่สำคัญที่สุด Don Failla ย้ำเอาไว้ว่า “อย่าพยายามขายโปรแกรมธุรกิจของท่านให้กับคนทั้งโลก เพียงลำพังด้วยตัวท่านเอง” จงจำเอาไว้เลยว่า การตลาดแบบเครือข่ายหรือ MLM นี่แหละ เป็นการสร้างองค์กร ซึ่งมีผู้จำหน่ายอยู่ในนั้นเป็นจำนวนมาก พูดง่ายๆก็คือ ต่างคนต่างขยายองค์กรของตัวเอง นั่นหมายความว่าเราเองไม่ต้องทำงานคนเดียว อันนี้ก็จะเป็นโมเดลของธุรกิจเครือข่าย ถ้าเราต้องการขยายเครือข่าย หรือธุรกิจใดก็ตาม เราจำเป็นจะต้องมีการโฆษณา ซึ่งในนี้เราจำเป็นจะต้องตัดงบโฆษณา ทุ่มเงินเพื่อสินค้าหรือบริการที่เหนือกว่า แล้วมีอะไรบ้าง Don Failla บอกว่าบริษัท MLM จำนวนมาก ไม่มีความจำเป็น ทุ่มเงินจำนวนมาก ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลไปกับการโฆษณา วิธีการโฆษณา เป็นการโฆษณาแบบผูกขาดที่นิยมใส่กันมากที่สุดก็คือ การบอกปากต่อปาก หรือบอกต่อๆกันไปนั่นเอง และด้วยเหตุผลนี้นี่เองบริษัท MLM จำนวนมาก จริงมีเงินเหลือในการพัฒนาสินค้า ต้องบอกเลยว่าสินค้าเกือบทุกบริษัท ที่เป็น MLM หรือว่าเครือข่าย มีผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันในท้องตลาด ท่านสามารถใช้สินค้าคุณภาพสูงเหล่านี้แหล่ะ และแบ่งปันให้กับเพื่อนๆของท่านด้วยวิธีการง่ายๆ ด้วยวิธีการขอร้องให้พวกเขาเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่เขาใช้อยู่มาใช้ยี่ห้อที่ท่านกำลังใช้อยู่นั่นเอง ให้พวกเขาแค่เปลี่ยนสินค้าหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาใช้อยู่ให้มาใช้สินค้าใหม่ ซึ่งท่านเองได้พบว่ามันดีและคุ้มค่ามากแค่ไหน เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้หลายคนก็อาจจะเห็นแล้วว่า หลายคนก็อาจจะเห็นแล้วว่าไม่ใช่แค่ไปพบคนแปลกหน้าพอประตูหน้าบ้านเพื่อขายสินค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งโปรแกรมการตลาดแบบเครือข่ายหรือ MLM เท่าที่ผู้เขียนรู้จักและมักจะสอนวิธีการง่ายๆเหล่านี่แหละ ในวิธีการแบ่งปันสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพให้กับเพื่อนๆ ทั้งหมดที่เราพูดมานี้เราเรียกมันว่าการขาย แต่สำหรับผู้เขียน มักจะบอกว่าเป็นการแบ่งปัน เพราะในความเป็นจริงมันก็เป็นแบบนั้น การขายหรือการแบ่งปันในความเป็นจริงแล้ว เราไม่ใช้คำว่าการขาย เราจะใช้คำว่าเป็นการแบ่งปัน เพราะในความเป็นจริงเราไม่ขาย แต่มันเป็นการแบ่งปันเสียมากกว่า ทำไมต้องมีการสปอนเซอร์หรือทำไมจะต้องมีการอุปถัมภ์ ในธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายหลายๆคนมักจะถามว่า ทำไมเราจะต้องสปอนเซอร์หรือทำไมเราจะต้องอุปถัมภ์ คนใหม่ๆเข้ามาในองค์กร แล้วความสำคัญของมันคืออะไร ในการอุปถัมภ์หรือสปอนเซอร์ คนเข้ามาในองค์กร ซึ่ง Don Failla บอกว่ามีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ MLM แตกต่างจากการขายตรงมันก็คือการอุปถัมภ์หรือการสปอนเซอร์ ผู้จำหน่ายหรือผู้ขายหน้าใหม่ๆ ในธุรกิจขายตรงหรือในกิจการขายตรง หรือในบริษัท MLM บางแห่งอาจจะใช้คำว่าสมาชิกใหม่ ในการสปอนเซอร์หรือในการอุปถัมภ์ บางบริษัทก็จะใช้คำว่าหาดสมาชิกใหม่ การหาสมาชิกใหม่ก็ขึ้นจะเป็นรูปแบบการหาคนหน้าใหม่ๆมาสมัครไปเรื่อยๆ แต่ว่าการอุปทานก็จะแตกต่างจากการหาสมาชิกใหม่ การอุปถัมภ์คือ “การสอนคนใหม่ของเราให้รู้ถึงวิธีการที่ทันกำลังทำอยู่ เพื่อที่เขาจะสามารถไปขยายธุรกิจของเขาเอง” อันนี้ก็จะเป็นการอุปถัมภ์ ถ้าจะพูดง่ายๆก็คือ เป็นการแบ่งปันวิธีการที่ทันทำแล้วมันได้ผล เพื่อที่เขาจะสามารถไปก็อปปี้ทำซ้ำให้มันได้ผลเช่นกันนั่นเอง ซึ่งแตกต่างจากการหาสมาชิกใหม่ การหาสมาชิกใหม่เป็นการเพิ่มคนเข้ามาในองค์กร แต่ไม่มีความมุ่งมั่นพัฒนาใดๆต่อความสำเร็จของพวกเขา ใครก็ตามที่ได้รับการเชิญชวนเข้ามาโดยไม่ได้รับการฝึกสอน และการสนับสนุนเท่าที่จำเป็น คนเรานั้นก็จะล้มเหลวในเวลาต่อมานั่นเอง ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างการ์ดอุปถัมภ์หรือการสปอนเซอร์ใครบางคน กับคนที่แค่เขียนใบสมัครเข้ามามันแตกต่างกัน ซึ่ง Don Failla บอกว่าเมื่อเราอุปถัมภ์คนคนหนึ่ง นั่นหมายความว่าท่านกำลังทำสัญญากับเค้า ท่านจะต้องรักษาสัญญาที่ให้กับเค้านี่แหละคือการอุปถัมภ์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม ท่านไม่รักษาสัญญาที่ให้กับเค้า นั่นก็หมายความว่าท่านกำลังหลอกลวงเขาให้มาเซ็นใบสมัครนั่นเอง ในธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายหรือใน MLM เราจะใช้คำว่าการอุปถัมภ์หรือการสปอนเซอร์แทนรการสมัครสมาชิก เพราะว่าการสมัครสมาชิกเป็นเพียงแค่เอาใครก็ได้มาสมัครเป็นสมาชิก ซึ่งเราเองก็ไม่จำเป็นต้องสอน หรือไม่จำเป็นต้องสนใจใยดีอะไรเลยก็ได้ ไม่สนใจว่าเขาจะเป็นตายร้ายดียังไง จะสำเร็จหรือไม่ อันนี้ก็จะเป็นการสมัครสมาชิก ซึ่งจะแตกต่างจากการอุปถัมภ์หรือการสปอนเซอร์ ส่วนการอุปถัมภ์หรือการสปอนเซอร์ หมายถึงว่าเมื่อเราชวนใครบางคนเข้ามาในองค์กร เราจะสอนเขาถึงวิธีการต่างๆที่เราทำแล้วมันได้ผล ที่เราทำแล้วมันประสบความสำเร็จ สอนให้เขาทำเป็น สอนให้เขารู้จัก เพื่อที่เขาจะสามารถเอาไปซ่อนองค์กรของเขาต่อได้เองให้เขานั้นประสบความสำเร็จ อันนี้ก็จะเป็นการ์ดอุปถัมภ์นั่นเอง ซึ่งถ้าฟังมาถึงตอนนี้แล้ว ทั้งหมดที่เราจะต้องทำก็คือ ตั้งใจรักษาคำมั่นสัญญา คนที่ทันสปอนเซอร์หรืออุปถัมภ์เข้ามานั่นเอง ต้องช่วยเหลือให้พวกเขา ให้สามารถสร้างธุรกิจของเขาเองได้ ซึ่งหนังสือเล่มนี้แหละจะเป็นเครื่องมือ และเป็นประโยชน์ที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ มันจะแสดงให้ท่านเห็นว่า จะต้องทำอะไรและทำอย่างไร มันคือความรับผิดชอบของผู้อุปถัมภ์ ที่จะต้องสอนทุกอย่างที่ท่านรู้ ให้พวกเขารู้เกี่ยวกับธุรกิจที่พวกเขากำลังทำอยู่ ให้แก่ทุกคนที่พวกเขานำเข้ามาในธุรกิจของเขา ตัวอย่าง: วิธีการสั่งสินค้า, การบันทึก, การเก็บรักษาข้อมูล, หรือวิธีการออกสตาร์ท, วิธีการสร้างและฝึกสอนคนในองค์กร, และวิธีการต่างๆอีกหลายอย่าง ที่เราจะได้เรียนรู้ในบทต่อไปในหนังสือเล่มนี้นั่นเอง เราจะได้เรียนรู้ควบคู่กันไปตลอดระยะทาง เพื่อที่ท่านจะสามารถบรรลุเป้าหมาย มีความรับผิดชอบที่มากขึ้นนั่นเอง การอุปถัมภ์คือสิ่งที่ทำให้การตลาดแบบเครือข่ายหรือการตลาดแบบหลายชั้นเติบโต และในขณะเดียวกัน องค์กรของท่านก็ขยายเติบโตขึ้นเหมือนกัน ท่านเองก็กำลังกลายเป็นนักธุรกิจอิสระที่ประสบความสำเร็จ ทำจะได้เป็นเจ้านายตัวเอง ถ้าเราสามารถทำแบบนี้ได้ เราก็จะเป็นนักธุรกิจอิสระ เป็น Lifestyle Trainer และที่สำคัญที่สุดเลย เราจะได้เป็นเจ้านายตัวเอง รูปแบบข้อดีของบริษัทขายตรงถ้าเทียบกับบริษัททั่วไป ถ้าทำงานกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เมื่อเราย้ายที่ทำงาน หรือเปลี่ยนพื้นที่ในการทำงาน ที่พัก, ที่อยู่, ที่กิน ถ้าเราย้ายไปแล้วจะต้องไปเริ่มต้นใหม่ แต่สำหรับธุรกิจเครือข่าย ขายตรงหรือว่าการตลาดแบบหลายชั้น เราไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ เราไปอยู่พื้นที่ใดก็ได้ในประเทศ หรือว่าในปัจจุบันนี้อยู่พื้นที่ใดก็ได้ในโลกนี้ เราก็ยังสามารถขยายองค์กร, ขยายเครือข่ายของเราได้เหมือนกัน สามาสปอนเซอร์คนใหม่ๆได้อยู่พื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ใดก็ได้เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ทั่วโลกนี้เราก็สามารถสปอนเซอร์คนทั่วโลกมาได้ โดยที่เราไม่สูญเสียยอดการจำหน่าย ซึ่งเกิดมาจากกิจกรรมการซื้อ-ขายของลูกค้าเก่าๆ ที่ท่านสร้างขึ้นมาก่อนหน้านั่นเอง การหาเงินกับการปลูกความมั่งมีมันแตกต่างกัน ซึ่ง Don Failla ใส่คำว่า การหาเงินเพียงอย่างเดียวสู้ไม่ได้กับการปลูกความมั่งมี เรามาดูคำว่าการปลูกความมั่งมี หรือการสร้างความมั่งคั่ง คำว่าปลูกความมั่งมี ลูกในที่นี้หมายถึงว่าเป็นต้น นั่นหมายความว่า ถ้าเราปลูกความมั่งมีได้แล้ว มันจะต้องมีเมล็ดมีผลให้เราเก็บอยู่เป็นประจำ หรือถ้าจะใช้คำศัพท์ในปัจจุบันก็คือจะเป็นการสร้าง Passive Income นั่นเอง ซึ่ง Don Failla บอกว่า ในโปรแกรมการตลาดแบบหลายชั้นทั้งหลาย สามารถหาเงินได้เป็นจำนวนมากใช้เวลามาก-น้อยแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับบริษัทที่เราเลือก แต่การที่จะสามารถสร้างรายได้หรือว่าหาเงินได้เป็นจำนวนมากให้มั่นคงหรือร่ำรวยนั้นแหละ มันเกิดขึ้นมาจากการสร้างองค์กร สร้างคน และพัฒนาผู้นำนั่นเอง อันนี้จะเป็นการสร้างองค์กรให้เติบโต เป็นการสร้างเนื้อสร้างตัวแบบมีรากฐาน มีคนจำนวนมากที่เริ่มต้นทำธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายหรือว่า MLM ด้วยความคิดเริ่มต้นต้องการมีรายได้เพียงแค่ 1000-3000บาท หรือบางคนก็ 6000บาทต่อเดือน และทันทีที่พวกเขาคิดได้ว่า ถ้าพวกเขาจริงจังกับธุรกิจนี้ เพราะเขาก็จะสามารถมีรายได้ 30,000-60,000บาทต่อเดือน หรืออาจจะได้มากกว่านั้น ซึ่งผู้เขียนบอกว่า ไม่มีใครที่จะสามารถทำรายได้มากขนาดนั้น ด้วยการไปขายสินค้าเพียงอย่างเดียว เขาจะสามารถสร้างรายได้แบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อ สร้างคน, สร้างองค์กร และพัฒนาผู้นำ ซึ่ง Don Failla บอกว่า จุดประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ก็คือ เพื่อสอนสิ่งต่างๆที่ท่านจะต้องรู้ เพื่อให้ท่านสามารถสร้างองค์กร และเพื่อใช้ในการปรับทัศนคติเกี่ยวกับ MLM ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและถูกทิศถูกทางนั่นเอง ถ้าหากมีใครบางคนคิดว่าการตลาดแบบหลายชั้นมันผิดกฎหมาย และเข้าใจไปว่า MLM มันคือพีระมิด ท่านก็จะมีปัญหาในการสปอนเซอร์หรืออุปถัมภ์เขานั่นเอง เหมือนที่เราเคยคุยกันในตอนต้นแล้วว่า MLM กับการตลาดแบบเครือข่ายมันคืออันเดียวกัน แต่ว่าพีระมิดหรือการตลาดแบบพีระมิดกับ MLM มันแตกต่างกัน ซึ่งบางคนก็จะพูดว่าการตลาดแบบพีระมิดมันผิดกฎหมาย ถูกต้องครับการตลาดแบบพีระมิดมันผิดกฎหมายจริงๆนั่นแหละ แต่ว่าบริษัทที่เป็นพีระมิดล้มเหลวในการเคลื่อนไหวสินค้าหรือบริการสู่ผู้บริโภคนั่นเอง แต่ว่าการตลาดแบบเครือข่ายที่เรากำลังพูดถึงมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง Don Failla บอกว่า ถ้ามีใครก็ตามมาพูดกับเราแบบนั้น ท่านจะต้องเป็นคนสอนพวกเขา อธิบายถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับองค์กรพีระมิดและ MLM มันแตกต่างกันอย่างไร สิ่งที่ท่านสามารถแสดงให้พวกเขาเห็นก็คือ ภาพประกอบความแตกต่างระหว่าง MLM และพีระมิด 3เหลี่ยมของ MLM และพีระมิดมาแตกต่างกัน 3เหลี่ยมของพีระมิดจะเป็นแนวตั้ง จะสร้างจากบนลงล่าง ผู้ที่มาก่อนก็จะอยู่จุดสูงสุด ก็จะอยู่ในตำแหน่งระดับที่สูงขึ้นไป แต่สำหรับ 3เหลี่ยมของ MLM ทุกคนจะเริ่มจากจุดด้านล่างก้าวขึ้นไป จะได้เริ่มต้นจากจุดเล็กๆน้อยๆ ไปสู่องค์กรที่ใหญ่ขึ้น นี่ก็จะเป็นข้อแตกต่างระหว่าง MLM และพีระมิด เรามาดูกันว่าภาพรวมของการตลาดแบบเครือข่ายมันคืออะไร ในตอนนี้หลายคนก็คงจะเข้าใจแล้วว่าการตลาดแบบเครือข่ายมันคืออะไร ที่ผู้เขียนบอกไปในตอนต้นแล้วว่า การตลาดแบบเครือข่ายหรือธุรกิจขายตรง ในปัจจุบันมีขนาดใหญ่เกินกว่า 166ล้านเหรียญ มีคนจำนวนมากยังไม่รู้ว่าธุรกิจการตลาดและเครือข่ายมีขนาดใหญ่แค่ไหน ซึ่งการตลาดแบบหลายชั้นอยู่กับพวกเรามากเกินกว่า 75ปีแล้ว และกำลังสร้างรายได้ให้กับเขามากกว่า 30พันล้านบาทต่อปี ซึ่งผู้เขียนบอกว่า เขารู้จักบริษัทหนึ่ง ที่สามารถสร้างยอดจำหน่ายในปีแรกมากกว่า 200ล้านบาท และในปีที่สองมียอดจำหน่ายมากกว่า 2000ล้านบาทต่อปี และในปีที่3 สามารถสร้างยอดจำหน่ายทะลุ 4000ล้านบาท ซึ่งพวกเขาตั้งเป้าเอาไว้ที่ 30พันล้านบาทต่อปี เมื่อก้าวเข้าปีที่10 ซึ่งหลักการที่ Don Failla เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้พวกเขาสามารถไปถึงเป้าหมายนั้นกลายเป็นจริง การออกสตาร์ตอย่างราบรื่นและเร็วที่สุด สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ หรือบริษัทใดก็ได้ใน MLM อธิบายเพิ่มให้เข้าใจแบบง่ายๆเลยว่า บริษัทใดก็ตามที่เป็น MLM หรือเป็นเครือข่ายจริงๆ มันสามารถเติบโตแบบต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่ง Don Failla บบอกว่าการตลาดแบบหลายชั้น ยังเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ผลิตสินค้า สามารถนำสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาดได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นหลักล้าน มันมีข้อดีมากกว่านั่นก็คือ มันเป็นโอกาสที่ท่านสามารถแบ่งปันโอกาสที่สวยงามคลองการตลาดเครือข่าย ซึ่งมันมีควบคู่กันมาด้วยการทราบธุรกิจนี้ และนั่นคือสิ่งที่เราจะอธิบายต่อไปเพิ่มขึ้นในหนังสือเล่มนี้ในวันถัดไปเราก็จะมาแบ่งปันกันเป็นบทที่ 2 ในบทที่ 2 ก็จะอธิบายเกี่ยวกับ “การนำเสนอ ผ่านกระดาษเช็ดปากตอนที่ 1: 2×2=4” ถ้าเนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่าน เราอยากทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เขียนความเห็นที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ ท่านสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับผู้คนได้โดยการแชร์บทความนี้ออกไปเยอะๆ นะครับ แด่ความสำเร็จของท่าน Post navigation ชีวิตเป็นของคุณจริงๆหรือไม่ Own Your Life บทฝึกสอนการนำเสนอผ่านกระดาษเช็ดปากตอนที่ 1