234 Views

ในยุคของการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้นภายใต้สถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป การสร้างการเติบโตทางธุรกิจเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่ความยั่งยืนที่แท้จริงขององค์กร หากแต่ความสำเร็จหมายถึงการสามารถเคลื่อนตัวเองไปพร้อมการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน ‘ซัคเซสมอร์’ (Success more) ภายใต้การเป็นแบรนด์ธุรกิจเครือข่ายที่ค่อยๆ เติบโต กำลังเดินทางไปข้างหน้าพร้อมแนวคิดการสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรอย่างน่าสนใจ นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร และคุณนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) เผยแนวทางการสร้างการเติบโตด้วยแนวคิดที่สามารถถอดเป็นบทเรียนความสำเร็จให้แก่องค์กรที่ปรารถนาความก้าวหน้าได้เช่นกัน

สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน

‘ซัคเซสมอร์’ (Success more) หรือ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ริเริ่มธุรกิจด้วยแรงปรารถนาจะสร้างความสำเร็จให้แก่องค์กรไปพร้อมกับมอบคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้แก่ผู้คน ด้วยเหตุนี้แนวทางหนึ่งในการดำเนินธุรกิจในกว่า 6 ปีที่ผ่านมาคือการพัฒนาคน ซึ่งในปี 2562 นี้ได้วางแนวทางไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเปิดโมเดลพัฒนาระบบความคิดสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน กับกลยุทธ์ “2019 Leading The Sustainable Success Way” ในขณะเดียวกันสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญอีกประการหนึ่งคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งคุณนพกฤษฏิ์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ขยายความไว้อย่างน่าสนใจ

“เมื่อพูดถึงความยั่งยืนในการเติบโตของธุรกิจ สิ่งแรกที่เราควรต้องทำให้ได้ นั่นคือ วัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน โดยต้องเป็นองค์กรที่เป็นการรวมกันของคนที่มีค่านิยมที่มุ่งเน้นทำในสิ่งที่ถูกต้อง รักความก้าวหน้า มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนกระทั่งเรียนรู้การสร้างความสำเร็จร่วมกันเป็นทีม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรียกว่าวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนความยั่งยืน นอกจากวัฒนธรรมองค์กรแล้วยังรวมถึงการพัฒนาคน เช่นพัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถ เป็นคนดี เป็นคนที่มีภาวะความเป็นผู้นำที่สูงที่มีพลังที่จะสามารถดึงศักยภาพของผู้คนออกมา เพื่อช่วยกันส่งมอบคุณค่าให้กับตลาดได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันกับที่ระบบการบริหารภายในต่างๆ ก็ต้องมีความคมชัด และเป็นระบบที่มีประสิทธิผลสูง เมื่อทั้งหมดรวมประกอบกัน ร่วมกับการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรม ทำให้ผู้บริโภคใช้แล้วชื่นชอบและมีความภักดี เราก็จะสามารถเดินไปจนถึงจุดที่บริษัทมีเสน่ห์พอที่จะหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังสามารถรักษาลูกค้าเก่าให้อยู่กับเราได้ตลอดไป นั่นคือความยั่งยืนที่แท้จริง”

กลยุทธ์ของ ซัคเซสมอร์ ในปีนี้จึงหมายถึงการทำทุกสิ่งที่จะช่วยตอบโจทย์ความยั่งยืนของความสำเร็จ ซึ่งคุณนพกฤษฏิ์ กล่าวว่า แนวทางเหล่านั้นประกอบไปด้วย การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งความยั่งยืน การมีระบบของการทำงานที่มีประสิทธิผลสูง การมีระบบการพัฒนาคนที่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม ไปจนถึงระบบการสร้างความแข็งแกร่งในภาคส่วนอื่นของการทำธุรกิจเพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงการตัดสินใจลงทุนต่างๆ เพื่อความถูกต้องและนำพาองค์กรไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน และแน่นอนว่ายังต้องผนวกกับกลยุทธ์ในการสร้างสินค้านวัตกรรม เพื่อผนึกกันเป็นกลยุทธ์การสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืน

สร้างและพัฒนาคนคุณภาพ เพื่อระบบที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับ ซัคเซสมอร์ แล้ว การเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการมอบคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้กับผู้คน ซึ่งสิ่งนั้นจะสะท้อนกลับมายังองค์กรที่หมายถึงความแข็งแกร่งในการสร้างการเติบโต โดยแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การมีระบบการพัฒนาคนให้มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม ซึ่งหนึ่งในระบบการพัฒนาศักยภาพที่ ซัคเซสมอร์ วางไว้ในปีนี้ คือ ‘Success University’ นพ.สิทธวีร์ กล่าวว่าที่นี่จะเป็นมากกว่าพื้นที่สำหรับพัฒนาคนที่สนใจเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับ ซัคเซสมอร์ เนื่องจากเปิดกว้างให้กับคนทุกคนที่แสวงหาโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตัวเองที่มากขึ้นด้วย

“สำหรับ Success University เราริเริ่มมากจากแนวคิดที่ว่า ผู้ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยส่วนหนึ่งก็ยังไม่สามารถที่จะสร้างความสำเร็จให้กับชีวิตได้ Success University เริ่มต้นเข้ามาเป็นแนวทางในการช่วยยกระดับความสำเร็จของผู้คนด้วยการเริ่มต้นยกระดับที่ความคิดก่อน โดยจะสอนทั้งความรู้ ทักษะ การพัฒนาภาวะความเป็นผู้นำ เพื่อให้คนคนหนึ่งสามารถประสบความสำเร็จได้เมื่อมาอยู่ใน Success University ของเรา ทั้งนี้ก็เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน โดยเข้ามาแล้วจะร่วมทำธุรกิจกับเราหรือไม่นั้นถือเป็นเรื่องรอง เพราะแรงบันดาลใจของเรา คือการสร้างมหาวิทยาลัยแห่งความสำเร็จเพื่อให้คนมีแนวคิด มีเป้าหมายของความสำเร็จ ให้เขาสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้จริง”

เจตจำนงในการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน ไปพร้อมกับการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ เป็นส่วนหนึ่งที่เดินทางเคียงข้างกันเสมอมา ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมภายใต้การขับเคลื่อนองค์กร ซัคเซสมอร์ จึงได้ริเริ่มโครงการเพื่อสังคมไปพร้อมกับมุ่งพัฒนาศักยภาพผู้คนด้วยเช่นกัน

“จริงๆ แรงบันดาลใจในการทำโครงการ CSV ของ ‘ซัคเซสมอร์’ เริ่มมาจากการที่ตัวผมเองเคยเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของ พอ.สว. เป็นเวลากว่า 20 ปี เพราะฉะนั้นเมื่อวันหนึ่งที่เราก่อตั้งบริษัทขึ้นมา ก็อยากส่งมอบคุณค่าให้กับสังคมด้วยการออกไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส โดยออกไปตรวจรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในชนบทห่างไกล ตลอดจนมีทีมทันตแพทย์เข้าไปร่วมดูแล พร้อมทั้งมีสัตวแพทย์เข้าร่วมโครงการ ไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์ที่อยู่ในชุมชน ขณะเดียวกันก็ส่งมอบคุณค่าให้กับนักเรียนในชุมชนโดยมอบทุนการศึกษา ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่บริษัทเติบโตขึ้นก็วางแผนจะช่วยเหลือสังคม และเป็นอีกหนึ่งคุณค่าที่เราได้ดำเนินการมาแล้วตั้งแต่ต้น โดยมีผู้ร่วมบริจาคพร้อมกับการร่วมสนับสนุนของบริษัท ในแต่ละปีจะส่งหน่วยแพทย์ออกไป 2 ครั้ง จนถึงวันนี้เราได้ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกไปแล้วกว่า 10 ครั้ง นับเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน โดยเฉพาะคุณค่าทางใจที่เราได้รับคืนกลับมา”

แม้จะเป็นบริษัทที่ฝากชื่อในแวดวงธุรกิจมาเพียง 6 ปี แต่แนวทางการเติบโตของบริษัทก็มีทิศทางที่เพิ่มขึ้น ไปพร้อมกับความเข้าใจที่ถูกต้องและทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจเครือข่ายที่มากขึ้นของผู้คน ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ยังหมายรวมถึงแทบทุกประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางในการดำเนินธุรกิจในปีนี้ของ ซัคเซสมอร์ ที่รุกตลาดอาเซียนมากขึ้น พร้อมกับวางแนวทางความสำเร็จเอาไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะจากความมั่นใจของผู้นำขับเคลื่อนองค์กรที่ว่า ‘ซัคเซสมอร์’ เป็นโมเดลทางธุรกิจหนึ่งที่จะสามารถยกระดับความสุขและความสำเร็จให้กับผู้คนในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ ผ่านความแข็งแกร่งขององค์กร การได้รับการตอบรับที่ดีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการมีระบบพัฒนาคนที่แข็งแรง ซึ่งต้องจับตามองก้าวใหม่ครั้งนี้ของ ‘ซัคเซสมอร์’ ทั้งในฐานะองค์กรที่มีแนวคิดการขับเคลื่อนที่น่าสนใจ และบริษัทคนไทยที่พร้อมจะก้าวสู่ระดับสากล

ที่มา: ไทยรัฐ

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *