13 ข้อที่ชอบ จากหนังสือ “ชีวิตสู้กลับ แบบนี้ต้องทำไง”

การเติบโตไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก การช่วยคลายปัญหาของชีวิต ที่พยายามจะสู้กลับและช่วยให้เราเติบโตได้ในแบบที่เหนื่อยน้อยที่สุด อยู่ในหนังสือ”ชีวิตสู้กลับ แบบนี้ต้องทำไง”

1. รสชาติของการเติบโต

– การตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องที่ดีเพราะทำให้เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น แต่การตั้งเป้าหมายใหม่ไม่จำเป็นต้องใหญ่ก็ได้ เราอาจจะตั้งเป้าหมายเล็กๆในแต่ละด้าน การมีเป้าหมายเป็นการนำเอาอนาคตมาอยู่ในปัจจุบัน และปัจจุบันคือเวลาเดียวเท่านั้นที่คุณสามารถเริ่มทำได้

– ความโดดเด่นของแต่ละช่วงวัย การได้ประสบการณ์มาต้องใช้เวลาในการทำงานแต่ละช่วงวัยก็มีข้อโดดเด่นแตกต่างกันไปเพียงแต่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีขวานขวายหาความรู้พร้อมทำงานด้วยทัศนคติที่เปิดรับ

– สิ่งที่ควรรู้ก่อนเปลี่ยนสายงาน งานทุกงานมีทั้งส่วนที่เติมเต็มชีวิต และทำให้มีความสุขขณะเดียวกันก็มีเรื่องที่ทำให้หนักใจอยู่ที่ว่าเราเลือกจะใส่ใจกับข้อดีของงานไหนและเลือกรับมือกับข้อเสียของงานไหนมากกว่ากัน

– ดูแลพ่อแม่แล้วอย่าลืมกลับมาดูแลใจตัวเองกันนะ เพราะการจะดูแลคนอื่นได้ เราต้องดูแลตัวเราก่อนเสมอ

2. Fresh Start

– อย่ารอให้ชีวิตง่ายขึ้นแล้วค่อยมีความสุขเพราะวันนั้นอาจจะไม่มีวันมาถึง ชีวิตไม่เคยง่ายขึ้น พรุ่งนี้อาจจะไม่เคยมาถึง ความสุขอาจไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเราไม่เลือกที่จะมีความสุขตั้งแต่ตอนนี้

– อยากสำเร็จในชีวิต แค่เริ่มลงมือไม่พอต้องไปต่อให้จบด้วย

3. การเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข

– การเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่แตกสลาย

* โอบกอดตัวเองให้เป็น *มีทัศนคติของคนที่พัฒนาตัวเองเสมอ *ปฏิเสธให้เป็น

*โฟกัสที่ความสุข

* ลุกขึ้นใหม่ทุกครั้งที่เราล้ม

– กฎขอแรงดึงดูด :ความลับของการสร้างพลังจากภายใน

*ความคิดบวก

*การจินตนาการ

*เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง

*การขอบคุณและกฎของแรงดึงดูด การขอบคุณและเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามี จะทำให้ชีวิตดึงดูดสิ่งที่ดีๆ

*การลงมือทำ

– Healthy Relationship

* ไม่พยายามเปลี่ยนตัวตนของใครอีกคน

*มีบทสนทนาที่ดีต่อกัน

*เสมอต้นเสมอปลาย

*ซื่อสัตย์

*มีความเป็นเพื่อนที่ดีให้กันเสมอ

– วิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรง

*เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง

* ฟังให้มากขึ้น

* เข้าใจความรู้สึกกันและกัน

*ร่วมมือกับความขัดแย้งด้วยความอ่อนโยน

*ดูแลรักษาอารมณ์ของเราให้ดี

– งานที่ดีต่อชีวิต

*งานที่ทำให้เรารักษาสมดุลกับชีวิตด้านอื่นได้ *งานที่มีเพื่อนร่วมงานที่ไม่เป็นพิษต่อจิตใจ

*งานที่เราได้แสดงศักยภาพที่เรามี

*งานที่ช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี

*งานที่เราชอบถนัด

4.จบใหม่ แล้วไงต่อ

– พรสวรรค์กับความพยายามอะไรสำคัญกว่ากัน

* การทำให้เต็มที่กับงานที่เราทำอยู่ ถึงแม้เรายังไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องนั้น ถ้าเราใส่ความพยายามมากเท่าไรแล้วโอกาสสำเร็จก็จะมากขึ้น

– เรียนจบแล้วทำงานที่ไหนดี

*ทำงานเป็นพนักงานประจำในองค์กร

*ทำงานเป็นฟรีแลนซ์

*เป็นผู้ประกอบการเอง

-2 คุณสมบัติสำหรับเด็กจบใหม่

* มีความมั่นใจ (Confident)

* มีความถ่อมตัว (Humility)

– เด็กจบใหม่อยากประสบความสำเร็จในการทำงานอย่างไร

* “ความสนใจ” ถ้าสามารถเลือกงานที่สนใจอยากทำได้ ให้เราเลือกทำสิ่งนั้น

*”การฝึกฝน” ต้องพัฒนาตัวเอง ให้เท่าทันกับการ เปลี่ยนแปลงของโลก

* “หาจุดมุ่งหมายให้เจอ” ว่าเราทำงานนี้ไปเพื่ออะไร ก่อนอื่นคือเพื่อตัวเอง

*” ความหวัง”ให้เรายังคงหวังว่า เราจะมีความเจริญก้าวหน้าในการทำงานอย่างแน่นอน

– มาเป็นมืออาชีพกันเถอะ คือนอกจากจะมีทักษะในเรื่องที่ทำงานดีพอสมควรแล้วยังต้องมีความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำด้วย

5. เรียนจบไม่ได้สิ้นสุดการเรียนรู้

เรากำลังเปลี่ยนครูคนใหม่

– ความไม่สมบูรณ์แบบบนโลกทำให้เราต่างพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวันไม่ใช่เพื่อความสมบูรณ์แบบแต่เพื่อให้เราได้มองตัวเองในทุกๆวันด้วยความภูมิใจว่าเราดีกว่าวันเก่าที่ผ่านมา

6. เลิกเป็นผู้ใหญ่ในแบบใครๆ

แล้วเริ่มโตไปในแบบของเราเอง

– การพัฒนาตัวเองไม่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำร้ายตัวเองตั้งแต่แรก อย่าให้การเติบโตหรือชีวิตในวัยผู้ใหญ่มีแต่ความเจ็บปวดโศกเศร้าและการใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัดของตัวเอง

– ไม่ควรให้ค่ากับการที่ต้องเติบโตไปเป็น”คนพิเศษมากเกินไป เพราะ แค่เป็น”คนธรรมดา”ที่มีความสุขได้นั้นก็ยากมากอยู่แล้ว

– การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่กังวลว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายหรือแปลได้ว่าชีวิตไม่ไร้คุณค่าและไม่ไร้ความหมาย

7. บางแง่มุมของการทำงาน ที่ HR อยากให้คุณรู้

– 2 ข้อที่ควรถามเมื่อไม่มีความสุขกับงานประจำ

* คำถามข้อที่ 1 เราให้น้ำหนักกับข้อเสียมากเกินไปหรือเปล่า

*คำถามข้อที่ 2 เราเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลอยู่หรือเปล่า

– เราบริหารเวลาไม่ได้แต่เราบริหารพลังงานของเราได้

-6 สิ่งที่ต้องปรับสำหรับการ Work From Home

* ดื่มน้ำให้เพียงพอ

*พักเบรค

*เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น

*หาความสงบให้จิตใจ (Finding Caim )

*ขีดเส้นเวลางานและเวลาส่วนตัว

*ใส่ใจเรื่องการตรวจสุขภาพ

8.”ชีวิตที่ใช่ ” คือชีวิตที่ใจเราเลือกเอง

– ชีวิตเป็นเรื่องของความสมดุลถ้าปิดตัวเองมากเกินไปก็อาจทำให้พลาดโอกาสดีๆในชีวิต แต่ถ้าตอบรับทุกเรื่องโดยไม่คิด เราก็อาจเก็บรักษาสิ่งที่สำคัญจริงๆในชีวิตเอาไว้ไม่ได้เหมือนกัน

– ใช้ชีวิตให้ช้าลง โดยไม่ต้องรีบเร่งกับการไขว่คว้าความสำเร็จมากเกินไป ใช้เวลากับการดูแลตัวเองและคนที่เรารักให้มากขึ้น และเรียนรู้ที่จะชื่นชมช่วงเวลาดีๆในชีวิตก่อนที่มันจะผ่านเลยไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

– ความเหนื่อยที่รู้สึกดี งานที่ดีต้องเป็นงานที่ช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณของเราไปพร้อมกัน และที่สำคัญคือ ต้องเป็นความเหนื่อยที่ทำให้เรารู้สึกดีไม่ใช่รู้สึกหมดไฟ

9.การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ ยากกว่ายุคไหนๆ

– ช่วงพักเราไม่ได้พัก นอกจากบริหารเวลาแล้วเราต้องบริหารพลังงานชีวิตด้วย

10.เมื่อผมเขียนจดหมายถึงลูก ในอีก 20 ปีข้างหน้าเพื่อให้เขารู้ว่าโลกในวัยทำงานเป็นอย่างไร?

-จงทำผิดพลาดให้มากที่สุดแต่ว่าต้องไม่ผิดพลาดเรื่องเดิมบ่อยๆเพราะนั่นมันคือสิ่งที่ตอกย้ำว่าเราไม่ใส่ใจชีวิตของตัวเอง

– ชีวิตต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ดี ควรทำให้เรามีความสุขในระหว่างที่ลงมือทำ

– ความสุขของเราควรเป็นเรื่องธรรมดาและควรเป็นความสุขของเราจริงๆ

11.Make It slow ช้าๆก็ก้าวหน้าได้

– การเป็นคนที่ห่วยที่สุดนั่นก็หมายความว่าชีวิตยังไม่ได้ถูกกำหนดด้วยเส้นทางไหนอย่างชัดเจนจึงทำให้มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงและเติบโตได้มากที่สุดเช่นเดียวกัน

– ต้องไม่ยอมแลกเวลานอนกับเรื่องอื่นเด็ดขาดเพราะมันหมายมันเหมือนการเอาเวลา สมอง พลังงานของวันถัดไปทั้งวันมาแลก

– การมีความรู้ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างและจะต้องรู้มากกว่าคนอื่นแต่อยู่ที่เราจะนำสิ่งที่เรารู้ มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อคนอื่นให้มากที่สุดได้อย่างไร

12.จดหมายของคนทำงานวัย 30

ที่คนทุกวัยก็อ่านได้

– เราอาจรู้ได้ว่าทรัพย์สินของเราจะมีเท่าไร แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าเวลาในชีวิตเหลืออยู่เท่าไร

– ถ้ามีโอกาสให้รีบเริ่มต้นก่อนที่วิกฤตจะบังคับให้คุณเริ่ม

– การเป็นหัวหน้าต้องมีศิลปะดังต่อไปนี้

*ศิลปะของการฟัง

*ศิลปะของการตัดสินใจ

*ศิลปะของการสื่อสาร

*ศิลปะของการสร้างบรรยากาศ

13.ทุกวันที่ผ่านไป…สอนอะไรเราบ้าง

– ระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดต้องเปิดหูรับฟังเปิดใจรับรู้อะไรๆโดยไม่ปล่อยผ่าน

– สิ่งที่สวยงามที่สุดที่เราสามารถมอบให้ผู้อื่นได้คือความเมตตาที่ตั้งอยู่บนความเข้าใจ ที่อาจสวยงามที่สุดในทุกสถานการณ์

– วันแย่ๆที่เราเห็นจริงๆมันก็เป็นแค่ “หนึ่งช่วงเวลา”ของชีวิต ขอแค่อย่าหยุดเดินเพราะช่วงเวลาดีๆอาจกำลังเคลื่อนเข้ามาหาเราเร็วกว่าที่คาด